คนเราเกิดมาในโลกนี้ ถึงแม้ว่าจะเกิดวัน เดือน ปี เดียวกัน แต่วิถีในการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันเสียราวฟ้ากับดิน บางคนเกิดมาก็คาบช้อนเงินช้อนทองออกมาเลยว่าได้ เพราะพ่อแม่เป็นราชามหาเศรษฐีผู้มีอันจะกิน ส่วนอีกบางมุมเพราะบางคนพอเกิดมาก็พบกับความยากจน เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินแม้กระทั่งจะซื้อผ้าอ้อมดี ๆ ผืนเท่าฝ่ามือมารองรับทารกในอ้อมกอดได้ ดีไม่ดีซ้ำร้ายบางคนเกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่เลวร้าย เพราะก็ต้องพบแต่พ่อส่วนแม่ตายหรือพบแต่แม่หาพ่อไม่ได้ ซึ่งก็เป็นความรู้สึกที่เลวร้าย เพราะแม้กระทั่งหน้าพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าก็ไม่มีโอกาสได้เห็น
เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนี้
สำหรับคำตอบมันก็มีให้กับทุกเรื่องอยู่แล้ว เพราะโลกเรามีพระท่านสอนว่า “อนิจจัง” เป็นของไม่เที่ยงแท้ แน่นอน เพราะคนเรามักจะต้องมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างย่อมล้วนขึ้นต่อกรรมที่ทำมา “ทำดีได้ดี …ทำชั่วได้ชั่ว” แต่ข้อที่เราทุกคนไม่ควรมองข้ามก็คือ “โชควาสนา” เพราะทุกอย่างก็มีทั้งดีและไม่ดี ต้องการและไม่ต้องการปะปนกันไป เพราะคนเราเกิดมาบ้างก็รูปสวย ร่ำรวยเสน่ห์ ใครเห็นใครรักขออุ้มชูอุปถัมภ์ มีที่ให้พำนัก พึ่งอาศัย บ้างก็รูปร่างอัปลักษณ์ คือ รูปชั่วตัวดำ เพราะถึงแม้จะไม่เคยทำอะไรเขาเลยก็ตาม แต่กลับโดยรังเกียจเดียดฉันท์ ไม่มีใครเขาเมตตาสงสาร เห็นเป็นคล้ายกับว่า เกิดมาต่างโลกต่างกำพืด เขาเสียเหลือเกิน
วิชาโหราศาสตร์ คืออะไร
วิชาโหราศาสตร์ เป็น ศาสตร์ (Science) อย่างหนึ่ง ที่เป็นความรู้ที่เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ โดยมีมาคู่กับมนุษย์ชาติแต่โบราณกาลแล้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ว่า “หมอดู” นั่นเอง พระราชามหากษัตริย์ของไทย ในอดีตก็ทรงมีตำแหน่งหมอดู ไว้เป็นคู่บัลลังก์คือ โดยตำแหน่งนั่นก็มีชื่อว่า “โหราธิบดี” นั่นเอง สำหรับตำแหน่งนี้ก็เอาไว้เป็นที่ปรึกษาวางฤกษ์ยามเพื่อจะดำเนินข้อราชการทั่วไปทั้งภายในและภายนอก โดยมีมากมายหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่นพระราชพิธีต่าง ๆ และการพิชัยสงคราม อันมีเหตุต้องให้ยกทัพจับศึก ก็ให้วางตำแหน่งแนวทางตาม จึงทำให้ตำแหน่งหมอดูมีความสำคัญจึงทำให้อยู่ใกล้ชิดกับราชบัลลังก์มากทีเดียว โดยที่ตำแหน่งนี้ก็มีอีกหนึ่งชื่อที่ภาษาชาวบ้านเรียกกันว่า ตำแหน่ง “โหรหลวง”
อย่างกับที่ทุกคนเคยได้ยินว่า หมอดูนั้นคู่กับหมอเดา เพราะถ้าหากคิดจะเป็นหมอดู ก็ต้องศึกษาเรื่องราวความรู้เฉพาะด้านนี้ให้ประโยชน์มากที่สุด อย่าให้ใครมาพูดได้ว่าเป็นหมอเดา โดยที่วิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาที่สามารถศึกษากันได้ เพราะไม่ได้จะมีแค่เฉพาะในในเมืองไทยเพียงเท่านั้น เพราะเท่าที่ได้เห็นมา ก็มีอยู่ทั่วเกือบทุกมุมโลก ทุกชาติ ทุกภาษารู้ เพราะทุกที่ก็มีหมอดูของตัวเอง แบบเมืองไทยเราเหมือนกัน