ไขข้อสงสัย น้ำยาบ้วนปากจำเป็นไหม?

4

น้ำยาบ้วนปากเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายคนใช้ทำความสะอาดช่องปากและฟัน โดยคิดว่าสามารถลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปาก และช่วยเสริมสุขอนามัยในช่องปาก หลายคนอาจสงสัยว่าน้ำยาบ้วนปากจำเป็นจริงหรือไม่ในการดูแลสุขภาพช่องปาก และมีเหตุผลอะไรที่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการดูแลสุขภาพช่องปาก

น้ำยาบ้วนปากมีกี่ชนิด 

น้ำยาบ้วนปากมีหลายสรรพคุณ ทั้งลดกลิ่นปาก ทำให้ฟันขาว ยับยั้งฟันผุ ลดคราบหินปูน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและส่วนผสม น้ำยาบ้วนปากแบ่งได้ 2 ชนิดหลักๆ 

1.น้ำยาบ้วนปากทั่วไป เป็นชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือสารชีวภาพ ไม่สามารถกำจัดแบคทีเรียตัวก่อปัญหากลิ่นปากได้ แต่อาจควบคุมกลิ่นปากได้ในระยะสั้นๆ 

2.น้ำยาบ้วนปากที่ใช้รักษาโรค เป็นชนิดที่มีส่วนผสมของ ฟลูออไรต์ คลอร์เฮกซิตีน เซทิลไพริติเนียมคอลไรด์ เป็นต้น ช่วยในการกำจัดแบคทีเรียและคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก ป้องกันโรคปริทันต์ โรคเหงือกอักเสษ  

น้ำยาบ้วนปากมีความจำเป็นไหม 

1.ไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน

น้ำยาบ้วนปากไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันได้ เนื่องจากการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ติดอยู่บนฟันและเหงือก น้ำยาบ้วนปากเป็นเพียงตัวช่วยเสริม แต่ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่เหมือนการแปรงฟัน 

2.ผลข้างเคียงจากการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์

น้ำยาบ้วนปากบางชนิดมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแห้งในช่องปากหรือระคายเคืองในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องช่องปากแห้งอยู่แล้ว การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์อาจทำให้อาการแย่ลง  

3.ไม่สามารถขจัดกลิ่นปากได้ 

กลิ่นปากเกิดจากก๊าซที่เป็นสารประกอบซัลเฟอร์ ก่อตัวมาจากแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับโรคในช่องปาก เศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ น้ำยาบ้วนปากแค่มีส่วนช่วยในการควบคุมกลิ่นปากได้เท่านั้น 

วิธีใช้น้ำยาบ้วนปากที่ถูกต้อง 

สำหรับใครที่นิยมใช้น้ำยาบ้วนปากก็ควรใช้ควรใช้น้ำยาบ้วนปากประมาณ 4 ช้อนชา (20 มิลลิลิตร) แล้วกลั้วปากไปมาเป็นเวลา 30 วินาทีอย่าง ทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง  

น้ำยาบ้วนปากเป็นเพียงตัวช่วยให้ช่องปากมีสุขภาพดียิ่งขึ้นเท่านั้น จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ อย่างไรก็ตามทุกคนยังต้องรักษาความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟันให้ทั่ว และควรตรวจเช็คสุขภาพช่องปาก และฟันอย่างเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้สุขภาพช่องปาก และฟันของเราแข็งแรง และสะอาด