มีข่าวออกไม่เว้นแต่ละวัน ว่ามีงูเข้าบ้าน บางครั้งเจ้าของบ้านก็ถูกทำร้าย บางครั้งก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับไปได้ แล้วเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญอย่าง “งู” เข้าบ้าน รู้ไว้สักหน่อยช่วยเซฟชีวิตได้นะคะ
งูที่เข้าบ้านมีชนิดไหนบ้าง
งูเข้าบ้าน ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกันก่อนว่า มีงูอะไรบ้างที่ชอบบุกที่อยู่อาศัยของเรา เพื่อที่เราจะได้จำแนกประเภทงูได้ว่า เป็นงูมีพิษ หรือไม่มีพิษ และนำส่งข้อมูลแก่หน่วยกู้ภัยได้ถูกต้อง
1.กลุ่มงูไม่มีพิษ :กลุ่มงูงอด-ปี่แก้ว , งูเขียวพระอินทร์ , งูทางมะพร้าว ,งูสิง , งูปล้องฉนวน
2.กลุ่มงูมีพิษ :งูเห่า, งูจงอาง , งูเขียวหางไหม้ , งูแมวเซา , งูกะปะ , งูสามเหลี่ยม
การจัดการงูที่เข้าบ้าน
1.ตั้งสติ เมื่อเจองูเข้าที่พักอาศัยของเรา สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ “ตั้งสติ” และอย่าวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว เพราะการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็วหรือฉับพลันอาจกระตุ้นให้งูตกใจ และจะป้องกันตัวด้วยการกัดได้ ควรค่อยๆ ถอยหลังออกมาอย่างช้าๆ และไม่ทำให้งูรู้สึกถูกคุกคาม
2.สังเกตลักษณะงู ควรจดจำลักษณะงูให้ได้ เพื่อแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องกับเจ้าหน้าที่ และเพื่อจัดการเบื้องต้นได้ ที่สำคัญคือสามารถจำแนกได้ว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษ เช่น งูเห่า จะแผ่แม่เบี้ย, งูสามเหลี่ยม มีลำตัวเป็นรูปสามเหลี่ยม, งูเขียวหางไหม้ หางจะสีน้ำตาลดำ เป็นต้น
3.ไม่ควรจับงูด้วยตัวเอง หรือไล่งูด้วยตัวเอง หากเราไม่เคยฝึกฝนอาจเกิดอันตรายได้ งูอาจตกใจจนหนีหายไปซุกซ่อนอยู่ในมุมทำให้หาไม่เจอ
4.กันพื้นที่ ควรพยายามกันพื้นที่ เช่น ปิดประตูหรือวางสิ่งกีดขวางไม่ให้งูเลื้อยไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้าน ถ้างูอยู่ในห้องที่ปิดประตูได้ ควรอุดช่องว่างใต้ประตูด้วย
5.ติดต่อกู้ภัยเบอร์ 199 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจับงู และควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดและสีของงู เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ได้สะดวกขึ้น
6.เมื่อถูกกัดห้ามขันชะเนาะ การขันชะเนาะ จะทำให้เลือดไม่เดินและเนื้อตาย และยังไม่สามารถป้องกันการแพร่กระจายของพิษได้ ควรทำเหมือนเข้าเฝือกอ่อน ใช้ไม้และผ้ายืดพันให้ขยับน้อยที่สุด ป้องกันการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่จะทำให้พิษเดินหรือแพร่กระจายได้เร็วขึ้น และพยายามอย่าให้อัตราการเต้นของหัวใจขยับสูงกว่าเดิม
การเอาตัวรอดเมื่องูเข้าบ้าน อย่างแรกควรตั้งสติ ค่อยถอยออกมาอย่างช้า สังเกตลักษณะของงูและตำแหน่งที่งูอยู่ แล้วโทรเจ้าหน้าที่เพื่อมาจับงูไป อย่าทำเองนะคะอาจเกิดอันตรายได้