ปัญหาคราบเชื้อราบนเสื้อผ้าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศชื้นหรือฝนตกบ่อยๆ เมื่อเสื้อผ้าไม่แห้งสนิท หรือเก็บไว้ในที่อับชื้น ทำให้เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว คราบเชื้อราไม่เพียงแต่ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับ แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวหนังหากสวมใส่ วันนี้เรามีวิธีการกำจัดคราบเชื้อราบนเสื้อผ้าอย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำ เพื่อให้เสื้อผ้าของคุณกลับมาสะอาด หอมสดชื่นอีกครั้ง
เชื้อราบนเสื้อผ้าขจัดออกได้
เชื้อราบนเสื้อผ้าเกิดจากความอับชื้นเป็นหลัก ทำให้เกิดจุดดำเล็กๆกระจายอยู่บนเสื้อ จะใส่ก็ไม่กล้า จะทิ้งก็เสียดาย ลองมาทำตามวิธีนี้เหล่านี้ เชื้อราจะหายไป
1.การใช้แสงแดดช่วยกำจัดเชื้อรา
แสงแดดเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยฆ่าเชื้อราได้ดี วิธีนี้เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่มีคราบเชื้อราเล็กน้อย หรือมีกลิ่นอับ สามารถนำเสื้อผ้าออกไปตากแดดในที่ที่มีแสงแดดจัดเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยทำลายเชื้อราและกลิ่นอับได้ แต่ควรระวังไม่ให้เสื้อผ้าตากแดดนานเกินไป เพราะอาจทำให้สีของผ้าจางลง
2.การใช้ผงซักฟอกและน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูเป็นสารธรรมชาติที่มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ดี วิธีนี้สามารถทำได้โดยนำเสื้อผ้าที่มีคราบเชื้อราไปแช่ในน้ำอุ่นผสมผงซักฟอกและน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 1:1 แช่ไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นซักตามปกติและตากให้แห้งสนิท
3.การใช้เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นและช่วยกำจัดกลิ่นอับ รวมถึงฆ่าเชื้อราได้ดี สามารถใช้วิธีนี้โดยการโรยเบกกิ้งโซดาลงบนบริเวณที่มีคราบเชื้อราของเสื้อผ้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
4.การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราและน้ำยาฟอกขาว
ในกรณีที่คราบเชื้อราบนเสื้อผ้าหนักและฝังแน่น อาจต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราหรือน้ำยาฟอกขาวเป็นตัวช่วย แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะน้ำยาฟอกขาวอาจทำให้สีของเสื้อผ้าจางลง ควรผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำตามคำแนะนำบนฉลาก แล้วแช่เสื้อผ้าไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นซักให้สะอาดและตากแดดจัดจนแห้งสนิท
อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่เกิดเชื้อรา จึงไม่ควรเก็บเสื้อผ้าที่ยังชื้น หรือยังแห้งไม่สนิท ความอับชื้นเป็นตัวก่อให้เกิดเชื้อราบนเสื้อผ้า ซึ่งวิธีที่เรานำมาแนะนำนั้นก็สามารถนำไปใช้ได้ดี แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับความรุนแรงของคราบเชื้อราบนเสื้อ เพื่อเป็นการถนอมเนื้อผ้า ทำให้ผ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน