เอารถป้ายแดงไปขอสินเชื่อรถยนต์แลกเงิน ได้เงินเต็มราคารถไหม ?

สำหรับหลายคนที่เพิ่งถอยรถคันใหม่ป้ายแดงออกมา แต่อาจมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินด่วนขึ้นมากะทันหัน คำถามยอดฮิตที่มักจะเกิดขึ้นในใจก็คือ “เราสามารถนำรถป้ายแดงที่ยังผ่อนไม่หมด ไปขอสินเชื่อรถยนต์แลกเงินได้หรือไม่ และถ้าได้ จะได้วงเงินเต็มตามราคาที่ซื้อมาหรือเปล่า?” บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจในทุกประเด็น เพื่อให้คุณวางแผนทางการเงินได้อย่างถูกต้องและไม่เสียประโยชน์

ทำความเข้าใจสถานะของ “รถป้ายแดง”

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจตรงกันว่า “รถป้ายแดง” คือรถยนต์ใหม่ที่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับกรมการขนส่งทางบก ป้ายทะเบียนสีแดงเป็นเพียงป้ายชั่วคราวที่บ่งบอกว่ารถคันนี้อยู่ระหว่างรอการจดทะเบียนเป็นป้ายขาว

ประเด็นสำคัญที่สุดอยู่ตรงนี้ครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว รถป้ายแดงมักจะถูกซื้อผ่านการจัดไฟแนนซ์กับสถาบันการเงิน ซึ่งหมายความว่า กรรมสิทธิ์ในตัวรถยังเป็นของไฟแนนซ์ อยู่จนกว่าเราจะผ่อนชำระค่างวดครบถ้วนตามสัญญา ในขณะที่เราเป็นเพียง “ผู้ครอบครอง” เท่านั้น เอกสารสำคัญอย่าง “เล่มทะเบียนรถยนต์” ตัวจริงก็จะถูกเก็บไว้ที่สถาบันการเงินผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อ

ด้วยเหตุผลนี้ การนำรถป้ายแดงไปขอสินเชื่อรถยนต์แลกเงิน หรือ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยตรงกับสถาบันการเงินแห่งใหม่จึง “แทบจะเป็นไปไม่ได้” เพราะหัวใจสำคัญของการอนุมัติสินเชื่อประเภทนี้คือ ผู้ขอสินเชื่อรถยนต์แลกเงินจะต้องมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นโดยสมบูรณ์ และต้องมีเล่มทะเบียนตัวจริงมาเป็นหลักประกันนั่นเอง

จะได้วงเงิน “เต็มราคา” รถหรือไม่ ?

สมมติว่าคุณผ่านขั้นตอนต่าง ๆ มาได้ หรือรถของคุณเป็นป้ายขาวที่ปลอดภาระแล้ว คำถามต่อมาคือ ในการขอขอสินเชื่อรถยนต์แลกเงิน จะได้วงเงินเต็ม 100% ของราคารถหรือไม่ ?

คำตอบที่ชัดเจนคือ “ไม่ได้เต็มราคารถ 100%” 

สถาบันการเงินทุกแห่งจะประเมินวงเงินสินเชื่อโดยอ้างอิงจาก “ราคาประเมินกลาง” ของรถยนต์รุ่นนั้นๆ ณ ปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่ “ราคาเต็ม” ที่คุณซื้อมาจากโชว์รูม โดยปกติแล้ว รถยนต์จะมีการเสื่อมราคา (Depreciation) ทันทีที่ถูกขับออกจากศูนย์บริการ

โดยทั่วไป สถาบันการเงินจะให้วงเงินสินเชื่อเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน หรือที่เรียกว่า LTV (Loan-to-Value) ซึ่งอาจจะอยู่ที่ประมาณ 80% – 95% ของราคาประเมิน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น:

• ยี่ห้อและรุ่นของรถ: รถตลาดที่ได้รับความนิยมสูงมักจะได้ราคาประเมินและเปอร์เซ็นต์วงเงินที่สูงกว่า
• ปีที่จดทะเบียนและสภาพรถ: รถยิ่งใหม่ สภาพดี ก็ยิ่งได้ราคาดี
• ประวัติทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อรถยนต์แลกเงิน: หากมีประวัติเครดิตดี ก็อาจจะได้รับการพิจารณาอนุมัติวงเงินในอัตราที่สูงขึ้น

ดังนั้น ความคาดหวังว่าจะได้รับเงินสดเท่ากับราคาเต็มของรถยนต์ที่ซื้อมาจึงเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติครับ

แล้วทางออกสำหรับคนมีรถป้ายแดงที่ต้องการเงินด่วนคืออะไร ?

แม้จะนำรถป้ายแดงไปจำนำทะเบียนโดยตรงไม่ได้ แต่ก็ยังมีทางออกอื่นที่น่าสนใจและเป็นไปได้จริง นั่นคือ การ “รีไฟแนนซ์” (Refinance)

การรีไฟแนนซ์ คือ การขอสินเชื่อก้อนใหม่กับสถาบันการเงินเดิมหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อนำเงินไปปิดยอดหนี้เก่าที่ยังค้างอยู่ หากรถของคุณมีมูลค่าสูงกว่ายอดหนี้เดิม คุณก็จะมีโอกาสได้รับ “เงินส่วนต่าง” ออกมาใช้จ่ายตามความต้องการ ซึ่งกระบวนการนี้มักจะทำได้ง่ายกว่าเมื่อคุณผ่อนชำระค่างวดมาแล้วระยะหนึ่ง (เช่น 12 เดือนขึ้นไป หรือเกิน 50% ของจำนวนงวดทั้งหมด)

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์คือ:

1. มีโอกาสได้รับเงินก้อนส่วนต่าง เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่อง
2. อาจจะช่วยยืดระยะเวลาการผ่อน ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง
3. อาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าเดิม หากเงื่อนไขของสถาบันการเงินแห่งใหม่น่าสนใจกว่า

สรุปและข้อควรจำ

• รถป้ายแดง โดยทั่วไปไม่สามารถนำไปขอสินเชื่อรถแลกเงินได้โดยตรง เพราะกรรมสิทธิ์ยังเป็นของไฟแนนซ์เดิม
• วงเงินสินเชื่อ จะไม่เท่ากับราคาเต็ม 100% ของรถ แต่จะอิงตาม “ราคาประเมินกลาง” และให้เป็นเปอร์เซ็นต์ (LTV)
• ทางออกที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ครอบครองรถป้ายแดงและต้องการเงินสด คือการ “รีไฟแนนซ์” เพื่อขอรับเงินส่วนต่าง

การวางแผนทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อทุกประเภท ควรศึกษาข้อมูลเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายๆ สถาบันการเงิน และที่สำคัญที่สุดคือประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตนเอง เพื่อให้รถยนต์คันโปรดของคุณยังคงเป็นสินทรัพย์ที่สร้างประโยชน์ และไม่สร้างภาระในระยะยาวครับ